ในโลกปัจจุบันที่ผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยสาเหตุนี้จึงเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์และลักษณะนิสัยใหม่ ๆ มากมายปรากฏขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา ตัวอย่างเช่น การดีท็อกซ์ร่างกายเป็นประจำ หรือแม้แต่การใส่หนังเทียมซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้ทุกคนมั่นใจว่าสิ่งแปลกใหม่ต่าง ๆ นี้มันเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนหรือไม่ ?
แน่นอนว่าทุกคนอยากที่จะรู้คำตอบแท้จริงว่าสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์และดีต่อสุขภาพนั้นมันส่งผลดีจริง ๆ ให้กับชีวิตของคุณหรือส่งผลในด้านตรงกันข้ามมากกว่ากันแน่ ดังนั้นพวกเราจึงมีข้อพิสูจน์ให้กับทุกคนได้เข้าใจ
1. การดีท็อกซ์
การดีท็อกซ์ หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าการขับสารพิษ คือการรับประทานอาหารในระยะสั้นโดยมีเป้าหมายเพื่อขจัดสารพิษนั้นออกจากร่างกายในที่สุด แต่ในการใช้ดีท็อกซ์ในการต่อสู้กับสารอันตรายนี้ยังไม่มีความจำเป็นจริง ๆ และยังไม่ได้รับการพิสูจน์ในทางของวิทยาศาสตร์
ในขณะที่ระบบการย่อยอาหารของร่างกายเราต้องการใยอาหารเพื่อใช้ในการทำงานปกติ แต่การรับประทานอาหารดีท็อกซ์ดังกล่าวเข้าไปในบางครั้งอาจจะเป็นการรบกวนระบบในการทำงานของร่างกายให้ผิดปกติได้ และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนเริ่มทานดีท็อกซ์
2. อาหารโปรตีนเพื่อสุขภาพ
เทนเนอร์และนักโภชนาการทางด้านอาหารหลายคนได้กล่าวไว้ว่า “ช็อกโกแลตแท่งที่มีนั่นควรเปลี่ยนเป็นโปรตีนอินทรีย์ที่ไม่มีกลูเตน” ในการเลือกรับประทานอาหารของคนรักสุขภาพ ซึ่งหากขาดความเข้าใจที่ถูกต้องอาจจะส่งผลเสียตามมาได้ แต่อย่างไรก็ตามโปรตีนบาร์บางชนิดก็มีน้ำตาลมาก (หรืออาจจะน้อยกว่า) ขนมทั่วไป นั่นเป็นเหตุผลที่คุณควรอ่านส่วนประกอบให้ดีอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นอาจจะเสี่ยงต่อการบริโภคน้ำตาลในปริมาณมากเข้าไปได้
3. การดื่มน้ำมากจนเกินไป
สิ่งที่เราเคยได้ยินมาตลอดเกี่ยวการดื่มน้ำนั่นก็คือต้องดื่มน้ำในปริมาณที่มาก แต่อย่างไรก็ตามการดื่มน้ำมากเกินไปก็ไม่ต่างอะไรจากการดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยเกินไปเท่าไหร่ เพราะทั้งสองสาเหตุนี้ส่งผลให้กับปัญหาสุขภาพของคุณได้เช่นกัน และในขณะที่นักโภชนาการได้แนะนำให้ผู้คนดื่มน้ำในปริมาณ 0.5-0.7 แกลลอนต่อวันนั้นได้โปรดเข้าใจใหม่ว่ามันไม่มีวิธีที่แน่นอนสำหรับทุกคน จำไว้ว่ามันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ เพศ และระดับการออกกำลังกาย เป็นต้น
4. อาหารที่มีส่วนผสมของถ่านกัมมันต์
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของถ่านกัมมันต์นั้นเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และอาหารประเภทนี้ก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพแถมยังเป็นอันตรายอีกด้วย สาเหตุเป็นเพราะถ่านกัมมันต์เป็นตัวที่คอยกำจัดสารที่เป็นอันตรายออกจากร่างกายซึ่งส่งผลเสียต่อจุลินทรีย์ในลำไส้เนื่องจากทำหน้าที่ในการดูดซับ นอกจากนี้ถ่านดังกล่าวนั้นจะลดประสิทธิภาพของยาลงเมื่อเวลาผ่านไปและหมายความว่าเราจะได้รับอันตรายแทนประโยชน์
5. น้ำหอมปรับอากาศ
รู้หรือไม่ว่าน้ำหอมปรับอากาศนี่แหละที่เป็นตัวทำลายสุขภาพร่างกายของคุณได้ไม่น้อยเลย เพราะส่วนประกอบหลัก ๆ ของมันประกอบด้วยสารอินทรีย์ที่ระเหยง่าย เช่น อีเธอร์ แอลกอฮอร์ ลิโมนีน และฟอร์มัลดีไฮด์ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราซึ่งนำพาให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืดที่เกิดขึ้นกับเด็ก รวมไปจนถึงสามารถทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะได้และมีอาการแพ้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้องเปิดห้องเพื่อระบายอากาศให้เป็นธรรมชาติแทนที่จะใช้น้ำหอมปรับอากาศ
6. การใช้ถ้วยกระดาษแทนพลาสติก
เนื่องจากปัญหาขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้คนจึงหันมาใช้ถ้วยกระดาษแทนที่พลาสติดแบบดั่งเดิม แต่อย่างไรก็ตามวิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ก็มีอันตรายซ่อนอยู่ เพราะในทุก ๆ ปีต้นไม้จะถูกตัด 6.5 ล้านต้นเพื่อไปผลิตเป็นถ้วยและจานกระดาษ ในขณะเดียวกันก็ต้องใช้เป็นพลังงานเพื่อจ่ายไฟให้กับบ้าน 54,000 หลังต่อปี และยิ่งไปกว่านั้นคือถ้วยหรือจานที่ทำจากกระดาษเคลือบด้วยฟิล์มโพลีเอทิลีนซึ่งค่อนข้างไม่เหมาะกับการนำไปรีไซเคิล
7. เครื่องสำอางที่มาจากธรรมชาติ
แม้ว่าเครื่องสำอางที่ถูกผลิตขึ้นมาให้เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อมในรูปแบบธรรมชาติอย่างที่คุณต้องการแล้วก็ตาม แต่อย่าลืมไปว่านิยามคำว่าธรรมชาติของแต่ละประเทศอาจเข้าใจไปในทิศทางที่แตกต่างกันได้ โดยเฉพาะส่วนผสมบางอย่างที่อยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่าง ๆ ที่อยู่ใช้กับผิวนั้น อาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับคุณได้
หากคุณต้องการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เป็นธรรมชาติจริง ๆ นั้นให้ใส่ใจฉลากที่มีสัญลักษณ์ติดเอาไว้ว่า “ออร์แกนิก” ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้จะถูกออกแบบมาอย่างเข้มงวดรับประกันได้ว่าปราศจากสารอันตรายแน่นอน และในขณะเดียวกันนั้นอย่าลืมว่าแม้แต่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเหล่านี้ก็มีสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ตามธรรมชาติได้ ดังนั้นอย่าลืมศึกษารายละเอียดข้อมูลองค์ประกอบให้ดีก่อนเลือกใช้
8. หนังเทียม
ปัจจุบันในเทรนด์ของการใช้หนังเทียมแทนหนังธรรมชาติค่อนข้างเป็นที่นิยมมากในตอนนี้ แต่รู้หรือไม่ว่าแม้แต่หนังเทียมก็สามารถทำร้ายสิ่งแวดล้อมได้และยิ่งไปกว่านั้นคืออาจจะเป็นการทำร้ายที่มากกว่าหนังแท้ด้วยซ้ำ จริง ๆ แล้วหนังเทียมนั้นทำมาจากพลาสติกและโรงงานที่เป็นผู้ผลิตก็มักจะปล่อยของเสียที่เป็นพิษลงสู่สิ่งแวดล้อม และเสื้อผ้าที่ถูกผลิตจากหนังเทียมก็ไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่เพราะอายุไขของหนังไม่ได้อยู่นานขนาดนั้น
ที่มา : brightside