เพิ่มพลังบวก จากเรื่องราวดีๆ ของคนที่โดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัย

ชีวิตคนเรานั้นล้วนได้เจอกับเหตุการณ์ และมีประสบการณ์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป และแน่นอนว่าเราทุกคนล้วนต้องดิ้นรนต่อสู้ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การหางานทำ การทำงาน หรืออื่นๆ ซึ่งอาจทำให้เหนื่อย ท้อกับสิ่งที่เป็นอยู่

วันนี้เรามาสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต กับเรื่องราวดีๆ น่าประทับใจ จากเจ้าของทวิต ต๊ะยีบสามโอ (@tahyipsam) ที่ได้แชร์ประสบการณ์การโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัย และไม่รู้จะทำอะไร ล่องลอยมาก นอนยู่ที่บ้านเป็นเดือน จนตัดสินใจออกหางานทำ และสุดท้ายก็ได้งานจากแบรนด์ในดวงใจของใครหลายๆ คน

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เรามาตามไปอ่านเรื่องราวดีๆ เพิ่มแรงบันดาลใจให้ตัวเองกันเลย รับรองอ่านจบคุณมีพลังในการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน

#1. สี่ปีที่แล้วตอนโดนไล่ออกจากมหาลัย ล่องลอยมากนอนอยู่บ้านเป็นเดือน จนตัดสินใจว่าจะออกไปหางานทำไม่เรียนละ ก็ไปหางานหลายที่ไม่มีใครให้ทำ จนในที่สุดมาสมัครสตาบัค จำได้ว่าตอนนั้นพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แล้วก็ไม่ได้กินกาแฟด้วย หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็รู้เลยว่าไม่ได้แน่นอน

เป็นเพียงภาพประกอบ

#2. แต่เหมือนฉากในหนังอะ พอยกมือไหว้เสร็จกำลังจะหันหลังกลับ ผู้จัดการถามว่าจบ ม.ปลายที่ไหน เราก็บอกเทพศิรินทร์ครับ พี่ผู้จัดการบอกว่า “งั้นพรุ้งนี้มาหาพี่อีกที ให้เริ่มงานเลยเดี๋ยวพี่สอนเอง พี่ลูกแม่รำเพยเหมือนกัน”

เป็นเพียงภาพประกอบ

#3. เราดีใจมากๆ หลังจากนั้นมาก็ทำงานที่ร้านประมาณหกเจ็ดเดือน จำได้ว่าตอนนั้นน้ำหนักขึ้นมาสิบโล จากคนไม่เคยกินกาแฟ ก็ล่อวันละสี่ห้าแก้ว ทั้งน้ำปั่น ชาเขียว ขนม ผสมแม่งมั่วหมด 5555 เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆช่วงนึง

เป็นเพียงภาพประกอบ

#4. สตาบัคอาจดูเผิ่นๆ ก็เหมือนร้านกาแฟแพงๆ ทั่วไป ที่รู้สึกว่าเฉพาะคนมีตังก็จะกินได้สตาบัค แต่ที่เราได้สัมผัสมันมากกว่านั้น ตอนเราเข้าไปทำงานวันแรก เราไม่ได้ทำอะไรเลย เราต้องไปเรียนที่ศูนย์ใหญ่ ทุกวันเราชิมกาแฟ เรียนเรื่องรสชาติ ที่มา ขนมที่กินคู่กับกาแฟแต่ละชนิด ประวัติของแบรนด์

#5. วิธีการชงกาแฟหลายๆแบบ มีการทดสอบจากหัวหน้าทุกวัน เราเรียนเกือบเดือนไม่ได้ทำงานเลย แต่ได้เงินเดือนเต็มจำนวน และนั่นคือความใสใจในการเทรนด์พนักงานของสตาบัค

#6. จำได้ว่าตอนนั้นยังสูบบุหรี่อยู่ เวลาสูบเสร็จต้องล้างหน้า บ้วนปาก ล้างมือให้สะอาด พี่ผู้จัดการไม่ได้ห้ามสูบ ไม่ได้กลัวลูกค้าได้กลิ่น แต่กลัวกลิ่นบุหรี่มันซึมเข้าไปในรสกาแฟผ่านมือของเรา เราจำฝังใจเลย>

เป็นเพียงภาพประกอบ

#7. เป็นช่วงเวลาที่เราได้เรียนรู้การใช้ชีวิตเยอะมาก ได้เรียนรู้การทำงาน แรงกดันต่างๆ หรือเรื่องเพื่อนก็ด้วย จากคนมีเพื่อนเป็นร้อยตอนอยู่วิศวะ เพื่อนค่อยๆหายหมดเพราะความห่างไกลและกิจกรรมที่แตกต่างกัน เหมือนชีวิตมีเพื่อนแค่คนเดียวคือไอไทด์

#8. เพราะต่างโดนไล่ออกเหมือนกัน ด้วยเกรดที่เท่ากัน บางวันไอไทด์ทำงานที่เซเว่นแถวพระรามสอง ต้องนั่งรถมารอเราเลิกงาน ไปนั่งที่สยามสองคนกินเบียร์คนละกระป๋องแล้วแยกย้ายกลับ มึงทำทำไมวะ 5555555

#9. วันนี้มีโอกาสได้กลับมาสตาบัคสาขาที่เคยทำงาน ยังเห็นภาพตัวเองแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาตอนตีสี่ทุกวัน เพื่อมาเปิดร้านให้ทันหกโมง ต้องจำชื่อลูกค้าและเมนูโปรดให้ได้ทุกคน มีคนนึงเป็นชาวต่างชาติ จำได้ว่าชื่อ โทมัส วันไหนที่เราเป็นบสริสต้า(สตาบัคจะให้ทุกคนทำงานเป็นหมดทุกอย่างในร้าน)

เป็นเพียงภาพประกอบ

#10. จะสลับหน้าที่กันทุกวัน บางวันเป็นบาริสต้า บางวันเป็นคนอบขนม คนเก็บเงิน คนเก็บจานกวาดพื้นจะวนๆกันไป) เวลามองลงไปบันไดเลื่อนชั้นล่าง เห็นโทมัสเดินมา เราจะรีบชง คาปูชิโน่ร้อนไซร้กลาง และอบชิเนมอลโรลมาเตรียมไว้ พอโธมัสมาถึงเค้าเตอร์ยังไม่ทันเอ่ยปากสั่งเราก็จะยกอาหารมาวางให้เค้า

#11. โทมัสกินแบบเดิมทุกวันตลอดเวลาครึ่งปีที่เราทำงาน และนักธุรกิจอีกหลายๆคนกินแบบนี้ มีครั้งนึงโทมัสดีใจมาก ให้ธิปเราห้าร้อยแต่เราก็บอกให้เค้าใส่ไปในกล่องธิปรวม โทมัสชอบใจเราใหญ่ ใส่ห้าร้อยลงในกล่องธิปรวมแล้วยื่นให้เราสองร้อยขอให้เรารับไว้

เป็นเพียงภาพประกอบ

#12. เค้าบอกว่าการที่เค้าได้รับการดูแลอย่างดีตั้งแต่เช้า ทำให้เค้ามีความสุขในการทำงาน และขอให้เค้าได้ตอบแทนเราบ้าง เป็นเรื่องที่เรายังจำได้ดีจนถึงวันนี้

#13. เรารู้สึกได้ว่าชีวิตคนเราเติบโตตลอดเวลา ไม่ว่าทุกข์จะสุข เสียใจ หรือผิดหวัง เราจะพบกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขอแค่อย่าให้เป็นการเติบโตแต่อายุที่มากขึ้น เราต้องเติบโตด้านความคิดและการกระทำด้วย

เป็นเพียงภาพประกอบ

#14. เพราะฉะนั้นถ้าจะมีอะไรจะผิดพลาดไปบ้าง อาจจะอกหัก โดนทิ้ง ไม่มีงานทำ เจ็บปวด โดนดูถูก ก็อยากให้ทุกคนคิดซะว่า มันก็เป็นแค่ส่วนนึงของการเติบโต และมันจะมีเข้ามาอีกเรื่อยๆ และเราต้องเจ็บอยู่เรื่อยๆ แต่จะเราผ่านมันไปได้เรื่อยๆเหมือนกัน

#15. และทุกเรื่องที่เราผ่านไปได้ มันจะเป็นรางวัลที่สวยงามที่สุด เมื่อเรามองกลับมาจากอนาคต ขอให้ทุกคนชื่นใจในความลำบากของตัวเอง

เป็นเพียงภาพประกอบ

สุดท้ายแล้วพอไม่ได้ทำงานสตาบัค ก็ไม่ค่อยได้กินหรอก เพราะมันก็ยังแพงอยู่ดีในระดับรายได้ของเรา แต่ถ้าได้ยินใครพูดว่าสตาบัคแพง เราก็จะอธิบายให้เค้าฟังอย่างภูมิใจว่ามันแพงแต่มันดีนะ แล้วมันดียังไง

เป็นเพียงภาพประกอบ

เป็นอย่างไรบ้างกับเรื่องราวและข้อคิดดีๆ อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะ รู้สึกได้รับพลังบวกมากจริงๆ ชีวิตเรากว่าจะถึงวันนี้ได้มันไม่ง่ายเลย ถึงแม้ชีวิตเราจะแย่ แต่มันก็มีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตเหมือนกัน ทุกๆ ความสุข ทุกๆ ความทุกข์มันคือชีวิตเรา ที่เราต้องผ่านมันไปให้ได้ และเติบโตขึ้นเพื่อให้มีชีวิตทีดีกว่าเดิม


ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้เรามีแรงฮึดสู้ต่อไป : @tahyipsam