หลายคนอาจจะไม่ชอบเวลาที่ได้เดินทางผ่านสถานที่ต่าง ๆ แล้วกลับต้องมาเจอภาพต่าง ๆ ที่ถูกพ่นเอาไว้ตามกำแพง บางคนก็บอกมันดูเลอะเทอะ แต่บางคนกลับมองว่ามันเป็นงานศิลปะ ทุกอย่างมันไม่มีผิดมีถูกหรอกนะครับ แต่สำหรับผมถ้าสิ่งที่ทำออกมานั้นมันสวยงาม ดูแล้วเจริญหูเจริญตา ผมว่าเราก็สามารถเรียกมันว่าเป็นงานศิลปะได้เหมือนกันนะ
และนี้เป็นภาพผลงานกราฟฟิตี้ข้างถนนบางส่วนที่เราได้นำมาให้ชมกัน ซึ่งแต่ล่ะผลงานมีความเหมือนจริงราวกับมีชีวิตมาก ๆ จะเหมือนจริงขนาดไหน เราไปชมพร้อม ๆ กันเลย
การสร้างงานศิลปะภาพนกจากการพ่นสีแบบ 3 มิติ เหมือนมีชีวิตจริงมาก ๆ
บอกเลยว่าถ้าเดินมาเจอภาพนี้รับรองว่าวิ่งหนีแน่ๆ เหมือนเกิน
งานนี้ใครจะเป็นฝ่ายชนะเราต้องมาลุ้นกัน
อย่าปล่อยให้มันหลุดออกไปนะ
” graffiti “ เป็นคำศัพท์ที่มาจากภาษากรีก grafito ซึ่งแปลว่าการเขียนภาพลงบนผนังหรือกำแพงในสมัยโบราณ โดยที่รู้จักกันทั่วไปจะมีลักษณะของการพ่น เซ็นชื่อ หรือเป็นการเซ็นลายเซ็น โดยเริ่มต้นจากเมืองฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา (ข้อมูลจาก th.wikipedia)
กล่องขนาดใหญ่ที่ทำออกมาได้มีมิติเหมือนจริงมากทั้งขนาด และมุมมอง
ถ้ามันจะใหญ่ขนาดนี้นะรับรองได้เลยว่าลงไร่ไหน พืชผลหมดแปลงแน่ ๆ
เดินมามืด ๆ เจอแบบนี้ขาอ่อนแน่ ๆ
ชิ้นส่วนของสัตว์ขนาดใหญ่ที่ถูกวาดเอาไว้บนโรงกลั่นสุราแห่งหนึ่ง
ภาพก่อน และหลัง เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแทบจำของเก่าไม่ได้เลย
ขนาดตึกสูง ๆ ยังสามารถลงรายละเอียดได้ดีขนาดนี้
และในตอนนี้ดูเหมือนว่าศิลปะแนวกราฟฟิตี้จะเป็นที่ยอมรับกันมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าจะในร้านอาหารชื่อดัง หรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างก็ได้เปิดกว้างให้ศิลปะแนวนี้ได้เข้าไปสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
คุณว่าชั้นไหนที่ไม่ใช่งานกราฟิตี้
งานนี้นายคงอดกินน้ำผึ้งแล้วนะเจ้าหมีพูร์
ศิลปินกราฟฟิตี้คนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากจากการเขียนชื่อของตัวเองให้ดูเหมือนทะลุในสถานที่ต่างๆ
มันช่างเหมือนจริงอะไรอย่างนี้
เลือกเลยว่าจะขึ้นบันไดฝั่งซ้าย หรือฝั่งขวา
มันคงไม่ได้เป็นเรื่องง่ายที่เราจะทำให้ทุกคนหันมาชื่นชอบเหมือนเรา ขอเพียงแค่เรายอมเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ งานศิลปะก็จะไม่มีขอบเขตให้คุณได้เรียนรู้
ขอบคุณที่มา brightside