สวัสดีครับ วันนี้ผมจะขอพาทุกคนไปดู ” สัตว์เผือก ” ที่ไม่ได้ใช่ ” ป้าข้างบ้าน ” นะครับ แต่มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความผิดปกติในร่างกาย ที่เรียกว่า โรคอัลบินิซึม (albinism) มันเกิดขึ้นจากยีนด้อยในหน่วยพันธุกรรม ที่เข้ามาทำการควบคุมการผลิตสีภายในร่างกายผิดเพี้ยนไป
จนทำให้สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมีสีขาวมากกว่าปกติ หรือที่เรียกว่า “ ภาวะเผือก(Albino) “ นั่นเอง ซึ่งสัตว์เผือกแต่ละชนิดที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะน่ารักและเจ๋งขนาดไหนถ้าพร้อมแล้วเราไปรับกันได้เลย
จระเข้เผือก
เรามาทำความรู้จักกับ ” จระเข้เผือก ” ชื่อเจ้าเพิร์ล กันดีกว่าครับ เพิร์ล เป็นจระเข้เผือกเพศเมีย ถือเป็นดาวเด่นแห่งสวนจระเข้เกเตอร์แลนด์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
” เจ้าเพิร์ล ” เป็นจระเข้เผือกแท้ คุณสามารถสังเกตที่ตามันได้นะครับ เพราะจะออกชมพู ๆ และสีขาวตลอดทั้งตัว มีลักษณะนิสัยขี้เล่น ซึ่งในบรรดาแอลลิเกเตอร์ 1 ล้านตัว อาจจะมีเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้นที่มีลักษณะดังกล่าว
สำหรับ ” เจ้าเพิร์ล ” ตั้งแต่หัวจรดหาง วัดความยาวได้ประมาณ 2 เมตร กว่า ๆ และเป็นสีขาวทั้งตัว มันถูกจับมาอาศัยอยู่ที่สวนสัตว์แห่งนี้ ตั้งแต่ตอนอายุ 3 ปี
นอกจากนี้ก็ยังมีจระเข้เผือกอีกหลายตัวที่มีการนำมาเลี้ยงเอาไว้ในสวนสัตว์อื่น ๆ เพื่อให้ผู้คนได้ชมความสวยงาม และความแปลกของจระเข้ในอีกมุมมองหนึ่งที่หาชมได้ยากมาก ๆ
เต่าเผือก
เต่ายักษ์กาลาปากอส เป็นเต่าบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ลักษณะเด่นคือกระดองหนา คอยาว พบเฉพาะบนหมู่เกาะกาลาปากอส ซึ่งตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ในประเทศเอกวาดอร์
และที่สร้างความฮือฮาในกับชาวโลกนั้นก็คือ มีลูกเต่าเผือกกาลาปากอส ที่เกิดใน โทรปิควอเลี่ยม เดอ เซอวิออน (Tropiquarium de Servion) ซึ่งเป็นสวนสัตว์แห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้โครงการที่หวังอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์
” นี่เป็นครั้งแรกของโลก ที่เต่ายักษ์กาลาปากอสเผือกได้เกิดในสวนสัตว์ และยังก็ไม่เคยพบเห็นว่าเกิดในธรรมชาติอีกด้วย “ ซึ่งมันเกิดพร้อมกันสองตัว แต่อีกตัวหนึ่งมีสีปกติ
โดยภาวะเผือกเกิดจากความผิดปกติของกระบวนการผลิตเม็ดสีในร่างกาย ทำให้มีสีซีด หรือสีขาว สัตว์เผือกจะมีตาแดง หรือชมพู นี่เป็นลักษณะเด่นสองประการของภาวะเผือก
การมีสภาวะสัตว์เผือก หรือ โรคอัลบินิซึม (albinism) เนี่ย จะทำให้พวกมันมีความไวต่อแสงทั้งต่อผิวหนัง และดวงตา และยังอาจมีโคแทรกซ้อนได้ง่ายอีกด้วย แบบนี้ต้องเรียกว่าแปลก แต่น่าสงสารจริง ๆ เลยนะครับ
กาเผือก
หากพูดถึง ” อีกา ” ทุกคนก็ต้องคิดถึงนกที่มีสีดำสนิท อย่างแน่นอน แต่ความจริงแล้วในธรรมชาตินอกจากอีกาสีดำแล้ว ก็ยังมีอีกาสีขาว และอีกาเผือกด้วย
แล้วเราจะแยกยังไงว่าตัวไหนเป็นอีกาขาวหรืออีกาเผือก อันนี้ไม่ยากครับ คุณต้องลองสังเกตุที่ดวงตาของมันถ้าออกสีแดง หรือชมพูอันนี้คือ อีกาเผือก หรือ ” ภาวะเผือก ” แต่ถ้าเป็นสีดำ หรือสีอื่น อันนี้จะเป็นภาวะด่าง หรือ ลูซิสติก(Leucistic)
ภาวะเผือกเป็นภาวะทางพันธุกรรมที่หายากกว่า และมีโอกาสเกิดอีกาเผือกคิดเป็น 1 ใน 30,000 ตัว
พวกมันมีอายสั้น และการมองเห็นก็ไม่ค่อยดี การขาดเม็ดสี ” เมลานิน ” ทั้งหมดที่เกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่หายากนี้ ส่งผลต่อความแข็งแรงของขน ทำให้ขนอ่อนแอและแตกหักง่าย จนทำให้มันอาจสูญเสียการบิน และกลายเป็นเหยื่อขอกนักล่าตัวอื่นได้
นกฮูกเผือก
นกฮูก หรือนกเค้าแมว เป็นนกชนิดเดียวกัน (Owl) ที่มีใบหน้าคล้ายแมว จับสัตว์ขนาดเล็กที่หากินในเวลากลางคืนเป็นอาหาร เช่น หนู งูบางชนิดที่ตัวเล็ก ๆ หรือสัตว์เลื้อยคลานบางชนิด เป็นต้น
พวกมันเป็นสัตว์ที่ดูลึกลับอยู่แล้ว แต่ยิ่งเจอเจ้า ” นกฮูกเผือก ” ที่มีขนเป็นสีขาว และมีดวงตาสีแดงแป๊ด แบบนี้ยิ่งทำให้มันดูแปลกยิ่งขึ้นไปอีก
และที่น้องต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าน้องเกิดพร้อมกับภาวะเผือก ที่มีไม่มีเม็ดสีเมลานิน จึงทำให้น้องขาวโป๊ะอย่างที่เห็น
หลายคนอาจไม่รู้ว่า เมลานิน คืออะไร มันเป็นเม็ดสีจากธรรมชาติ ที่ทำให้มีสีบนผิว ผม หรือดวงตา หากเป็นสัตว์ก็รวมไปถึงขนด้วย
และการที่เราเห็นดวงตาของน้องเป็นที่แดงนั้น นั่นก็เป็นเพราะม่านตาน้องไม่มีสีเลยทำให้เห็นเส้นเลือดภายในดวงตาที่เป็นสีแดงสดนั้นเอง
เม่นเผือก
เม่นแอฟริกาเผือก สามารถพบเจอได้ที่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกาและขอบทะเลทรายซาฮาร่า
เป็นเม่นที่มีขนาดใหญ่ เกิดจากความผิดปรกติของเม็ดสีดำ ทำให้มีขนแหลมสีขาว ตาสีแดง ความยาวลำตัว ประมาณ 24-33 นิ้ว น้ำหนัก 13-27 กิโลกรัม เป็นสัตว์ที่อาศัยบนพื้นดิน ปีนต้นไม้ไม่เก่ง แต่สามารถว่ายน้ำได้ พวกมันจะหากินในตอนกลางคืน การขยายพันธุ์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ตั้งท้องนาน 66 วัน ออกลูกครั้งละ 1-2 ตัว
ปัจจุบันเม่นเผือกเหลือในธรรมชาติน้อยมาก เนื่องจากสัตว์เผือกเป็นสัตว์ที่มีความอ่อนแอในตัวเองสูง มีภูมิคุ้มกันโรคทางธรรมชาติน้อยจึงทำให้การดำรงชีวิตและหลบหลีกศัตรูยากกว่าสัตว์ปกติ สัตว์เผือกจึงต้องการการดูแลมากกว่าปกติเพื่ออายุที่ยืนยาวของพวกมัน
ฮัมมิงเบิร์ดเผือก
ถ้าพูดถึงนกขนาดเล็ก เชื่อว่า ฮัมมิงเบิร์ด ต้องเป็นนกที่หลายคนคิดถึงอย่างแน่นอน ที่มันมีชื่อแบบนี้นั่นอาจเป็นเพราะเสียงฮัมที่เกิดจากปีกที่ตีกันซึ่งกระพือด้วยความถี่สูงที่มนุษย์ได้ยิน
พวกมันสามารถกระพือปีกได้ถึง 12 ครั้งต่อวินาที ถ้ามีขนาดใหญ่หน่อย ก็จะกระพือไม่เร็วขึ้น อีกทั้งพวกมันยังสีสันที่สวยงามอีกด้วย
และการที่จะได้พบเห็น ฮัมมิงเบิร์ดเผือก มันก็เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ และที่มันสีขาว และตาสีแดงนั้นก็เพราะว่าพวกมันไม่เม็ด เมลานิน เหมือนกับสัตว์เผือกตัวอื่น ๆ นั่นแหละครับ และนี่ก็เป็นหลักฐานการมีอยู่จริงของมัน ที่ถูกบันเอาไว้ได้ในหลังบ้านของครอบครัวหนึ่ง ที่รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในโลกออนไลน์
กระรอกเผือก
กระรอกเผือก ถือเป็นสัตว์ที่สามารถพบเจอได้มากกว่าสัตว์เผือกที่เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ๆ แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ที่พบเจอได้ยากอยู่ดี พวกมันไม่มีเมลานิน จึงทำให้ไม่สามารถสร้างสีเหมือนกับกระรอกตัวอื่น ๆ ได้ แต่ถ้าคุณเจอกระรอกสีขาวก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปไปนะว่ามันคือ กระรอกเผือก เพราะต้องดูที่ตามันด้วย ถ้าเป็นสีแดง หรือชมพู่อันนั้นชัวร์เลยว่าเผือกจริง แต่ถ้าตาเป็นสีอื่นแสดงว่ามันอาจเป็นภาวะด่างแทนก็ได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าประเมินว่าโอกาสที่จะได้เกิดกระรอกเผือกคือ ซึ่งการมีสภาวะเผือก ก็ทำให้พวกมันอ่อนแอกว่ากระรอกที่ปกติทั่วไป
จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปี 1997 ระบุว่าสายตาของกระรอกเผือกไม่ได้บกพร่องเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเผือกชนิดอื่นๆ คิดว่าพวกมันมีการมองเห็นลดลงเพียง 5% เมื่อเทียบกับกระรอกทั่วไปเท่านั้น
นี่อาจเป็นสาเหตุที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสัตว์เผือกชนิดเดียวที่สามารถอยู่รอดและมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้คือกระรอกเผือก นั่นเอง
สมเสร็จเผือก
ปกติสมเสร็จก็เป็นสัตว์ที่หาดูได้ยากอยู่แล้วนะครับ ยิ่งถ้าเป็น “ สมเสร็จเผือก ” ต้องบอกเลยว่าซุปเปอร์หายากจริง ๆ
แต่ก็มีคนท้องถิ่นบราซิล บอกว่าได้เจอกับ “ สมเสร็จเผือก ” ที่เดินเตล็ดเตร่อยู่ในป่าฝนแอตแลนติก ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของบราซิล จึงทำให้ ช่างภาพที่ชื่อว่า ลูเซียโน่ แคนดิซานี (Luciano Candisani) ได้เดินทางเข้าไปเพื่อพิสูจน์ความจริง
เขาได้ตั้งกล้องเฝ้ารอถ่ายภาพสัตว์ที่ออกมาหากินในเวลากลางคืนภายใต้ความมืดมิด ซึ่งมีสมเสร็จหลายตัวผ่านมาแต่ไม่มีตัวขาว
ตอนแรกเขาคิดว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นการหลอกลวง จนกระทั้งเขาได้มาตรวจสอบภาพถ่ายจากคืนหนึ่ง เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อกล้องสามารถบันทึกภาพ สมเสร็จเผือกตัวจริงได้ มันช่างเป็นการค้นพบที่น่าเหลือเชื่อมาก
เพนกวินเผือก
เพนกวินเผือกที่หายากสุดๆ ได้ปรากฏตัวครั้งแรกที่สวนสัตว์โปแลนด์ ซึ่งมันถือกำเนิดในสวนสัตว์กดานสค์(Gdansk)และอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ตั้งแต่นั้นมาโดยมันถูกเพนกวินตัวอื่น ๆ ปฎิเสธไม่ให้เข้าร่วมกลุ่ม เนื่องจากมันแปลกว่าพวกนั่นเอง
โดยวีดิโอที่เผยแพร่ออกมาทำให้เห็นว่ามันเป็นเพนกวินที่ขี้อายเป็นอย่างมาก มันมีความสูงประมาณ 27 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ ครึ่งกิโลกรัม
เนื่องจากน้องเป็นเพนกวินที่มีสภาวะเผือก ดังนั้นจึงต้องได้รับการดูแลมากกว่า เพนกวินปกติทั่วไป และหวังว่าเจ้าเพนกวินตัวนี้จะอายุยืนด้วยนะครับ เพราะการมีสภาวะเผือกจะทำให้มันอ่อนแอกว่าปกติ
มาถึงตรงนี้นะครับเราอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจก่อนว่า สัตว์สีขาวทุกตัวไม่ใช่ต้องเป็นสัตว์เผือกนะครับ บางตัวอาจจะแค่มีสีผิวที่ซีด หรืออาจจะเป็นโรคอื่นอย่างเช่น สภาวะด่าง(Leucism) ก็เป็นได้
วิธีสังเกตสัตว์เผือกให้ดูที่ตา เพราะตาของสัตว์ด่างจะเป็นสีดำปกติ ในขณะที่สัตว์เผือกจะมีตาเป็นสีแดงหรือชมพูนั้นเอง