Natural

แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ อันน่าทึ่ง ที่ถูกเก็บไว้ใต้น้ำ

มีหลายร้อย หลายพันตำแหน่งบนโลกที่เรายังไม่ได้รับการสำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ ที่จะมีฝังอยู่ใต้น้ำ นักวิทยาศาสตร์ และนักโบราณคดี ยังคงมองหาเมืองที่สูญหายไปของแอตแลนติสซึ่งจมลงไปในทะเลภายในวันเดียว

เช่นเดียวกับแอตแลนติสเมืองโบราณคดี และสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ถูกจมอยู่ใต้น้ำด้วยพลังแห่งธรรมชาติ วันนี้เราได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการฝังไว้ใต้น้ำ อันน่าทึ่งจากทั่วโลกมาให้ได้ชม

1.หมู่บ้าน Epecuen บัวโนสไอเรส

ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1920 หมู่บ้าน Epecuen ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลสาบซอลท์เลค “Lago Epecuen” และกลายเป็นที่อยู่อาศัยของคนกว่า 5,000 คนในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ในช่วงเวลาดังกล่าวสภาพอากาศเริ่มมีความผิดปกติมากขึ้นสะสมมาหลายปี และทำให้มีฝนตกมากกว่าที่บริเวณรอบ ๆ ทำให้ทะเลสาบ Salt Lake ของ Epecuen ล้นจนน้ำไหลท่วมหมู่บ้าน แต่ตอนนี้น้ำลดแล้วทำให้เราสามารถที่จะเข้าออกพื้นที่ได้บ้างแล้ว

2. Potosi, เวเนซุเอลา

ไม่มีอำนาจใดในโลกสามารถแข่งขันกับพลังแห่งธรรมชาติได้ และเมื่อปรากฏการณ์ El Niñoได้เกิดขึ้นทำให้ทั้งเมืองต้องจมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 30 ปี Potosi เป็นเมืองเล็ก ๆ ในเวเนซุเอลาที่ถูกน้ำท่วม เพราะรัฐบาลท้องถิ่นท้องถิ่นต้องการที่จะสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในปี 1985

ประมาณ 30 ปีต่อมาระดับน้ำลดลงอย่างมากเนื่องจากภัยแล้งที่ปรากฏการณ์ El Niño ทำให้เมืองทั้งเมืองปรากฎขึ้นอีกครั้ง

3. Jal Mahal เมืองชัยปุระประเทศอินเดีย

แม้ว่าจะมีลักษณะงดงาม Jal Mahal หรือที่เรียกว่า Water Castle ก็คือ พระราชวังที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ Man Sagar ในเมือง Jaipur ในอินเดีย

4. โบสถ์เซนต์นิโคลัสทะเลสาบ Mavrovo

ในปี ค.ศ. 2003 คริสตจักรถูกจมอยู่ใต้น้ำอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ในช่วงฤดูร้อนมากกว่าครึ่งหนึ่งของคริสตจักรจะมองเห็นได้

5. Grüner See, Austria

ทะเลสาบที่สวยงามแห่งนี้ซึ่งมีลักษณะเป็นภาพเหนือจริงเป็นGrüner See หรือที่เรียกว่า Green Lake ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรียและ มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำทะเลใส และสีเขียวมรกตที่ได้รับจากหญ้าและใบไม้รอบข้าง