โลกของเรานั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวแปลกประหลาดและน่าสนใจมากมาย ที่มีให้เราได้ศึกษาค้นคว้าและเรียนรู้เพิ่มเติมกันอยู่เสมอ ๆ และยังมีเรื่องราวมากมายบนโลกใบนี้ที่เรายังไม่รู้ วันนี้เราจึงได้รวบรวม 14 เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ เอามาให้ได้รู้กัน
1. ไข่นกฮัมมิงเบิร์ดนั้นมีขนาดเล็กมาก
มีขนาดเท่ากับ ถั่วขาว (Navy Beans) หรือมีขนาดเล็กกว่าเมล็ดกาแฟ
2. การจาม 1 ครั้ง สามารถแพร่เชื้อได้ 150 คน!!
ผลงานวิจัยในประเทศอังกฤษระบุว่า หากมีคนจามในรถโดยสารสาธารณะ 1 ครั้งโดยไม่ปิดปาก จะมีการพ่นละอองออกมาถึง 100,000 ละออง เข้าไปในอากาศ ด้วยความเร็ว 90 ไมล์ต่อชั่วโมง
การจามของคนแพร่เชื้อ 1 ครั้ง ภายใน 5 นาที สามารถทำให้ผู้ร่วมรถโดยสารติดเชื้อได้ถึง 150 คน และถ้าเชื้อไม่กระเด็นไปโดนผู้คนรอบข้าง มันก็จะตกลงบนพื้นรถหรือติดอยู่ตามราวจับ คนที่ใช้รถโดยสารอย่างน้อย 10% มีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคนั้น หากมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ก็จะติดเชื้อนั้นไปด้วย
คนที่ไม่มีผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู ก็มักจะจามใส่มือตัวเอง หลังจากนั้นก็ไปหยิบจับสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ คนที่จับตามหลัง หากไม่ล้างมือก็มีโอกาสติดเชื้อได้
3. ข้องอ ๆ ตรงขาของนกฟลามิงโก้ที่เราเห็นนั้นไม่ใช่หัวเข่า แต่เป็นข้อเท้า
ซึ่งร่างกายของนกฟลามิงโก้นั้น จะมีส่วนสะโพกและหัวเข่าที่อยู่ในลำตัวของมันเลย เพราะอย่างนี้มันจึงมีจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายที่สมดุล ข้อเข่าที่อยู่ในตัวแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักและทำให้ยืนขาเดียวได้นานๆ แบบไม่เมื่อยได้
4. โทรศัพท์มือถือมีเชื้อโรคและแบคทีเรีย มากกว่าฝารองชักโครกหลายเท่า
5. โลมามี “ชื่อ” ไว้เรียกกัน
นักวิจัยพบโลมาผิวปากที่มีลักษณะเสียงเป็นเอกลักษณ์เพื่อแทนชื่อเรียกกัน โดยโลมาจะร้องเรียกตัวอื่นด้วย “ชื่อ” ที่เป็นเสียงผิวปากที่เจาะจงสำหรับโลมาแต่ละตัว
6. ทำไมคนเราต้องหาว หาวเกิดจากอะไร และหาวคืออะไร?
การที่คนเราหาวนั้น เป็นเพราะว่าร่างกายของคนเรามีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และกรดแลกติกอยู่ในกล้ามเนื้อและกระแสเลือดสูง ร่างกายไม่สามารถขับออกทางลมหายใจเข้าออกได้ทัน จึงมีการสูดหายใจที่ยาวขึ้น และการผ่อนลมออกที่นานกว่าเดิม หรือที่เราเรียกกันว่าการหาว ส่วนการที่คนเราหาวแล้วมีน้ำตาไหลออกมานั้น เนื่องจากว่า เมื่อเราหาวแล้ว กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าจะตึง และดึงกล้ามเนื้อบริเวณต่อมน้ำตา ทำให้ต่อมน้ำตาบีบตัว และน้ำตาที่บรรจุอยู่ภายในก็จะออกมา ในเวลาก่อนที่คนเราจะนอนแล้วเราหาว มิใช่ว่าเราง่วงแล้วถึงหาว แต่เราง่วงเนื่องจากว่า ร่างกายได้ทำงานหนักจนร่างกายมีการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้เราหาว และรู้สึกอยากที่จะพักผ่อน ส่วนในเวลาที่เราตื่นนอนขึ้นมา เราก็หาวอีกเช่นกัน เนื่องจากขณะที่เรานอนหลับนั้น เราจะหายใจด้วยปริมาณที่น้อยกว่าขณะตื่นถึงเท่าตัวเลยทีเดียว แต่เมื่อเราตื่นจากนอนหลับขึ้นมาแล้ว อวัยวะต่างๆในร่างกายเริ่มทำงาน ก็ต้องมีความต้องการก๊สซออกซิเจนมากขึ้น เราจึงหาว อ่านเพิ่มเติม ทำไมเวลาเห็นคนอื่นหาวแล้วต้องหาวตาม
7. คำว่า OK มาจากคำเต็มว่า Oll Korrect ซึ่งที่ถูกต้องคือ All Correct
มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจจาก พ่อค้าชาวอเมริกันคนหนึ่งที่มีฐานะ ตำแหน่งหน้าที่การงานสูง แต่การศึกษาน้อย ทุกครั้งที่เขาสั่งงานลงในใบสั่ง ถ้างานชิ้นใดถูกต้อง ตกลง และอนุมัติ เขาจะเขียนคำว่า Oll Korrect ลงในใบสั่งใบนั้นเสมอๆ
ต่อมากิจการของพ่อค้าคนนี้ มีความเจริญก้าวหน้ามาก งานที่ติดต่อมาก็มีมากขึ้น ใบสั่งงานก็มีมากมายล้นโต๊ะ การที่เขาจะต้องเขียนคำ Oll Korrect ลงในใบสั่งทุกใบทำให้ต้องใช้เวลามาก เขาจึงย่อเหลือเพียงสั้นๆ คำ O.K. ต่อมามีการใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งภาษาพูด และภาษาเขียนมากันจนปัจจุบันทั่วโลก
8. ไข่นกกระจอกเทศเป็นไข่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด พวกมันมีน้ำหนักมากกว่าไข่ไก่ถึง 20 เท่า
9. ปริมาณน้ำตาลในมะนาวมีมากกว่าสตรอเบอร์รี่ โดยมะนาวมีปริมาณน้ำตาลประมาณ 70% แต่ในขณะที่สตรอเบอร์รี่มีปริมาณน้ำตาลเพียง 40%
10. ปลิงทะเล ขับถ่ายและหายใจออกทางก้น
11. มนุษย์ไม่สามารถเดินบนน้ำบนโลกได้ แต่บนดวงจันทร์มนุษย์สามารถเดินบนน้ำได้
12. กรดในกระเพาะอาหารสามารถละลายโลหะได้
กระเพาะอาหารเรานั้นมีกรดไฮโดรคลอริค Hydrochoric acid (HCL) ซึ่งมันเป็นชนิดเดียวกับที่ใช้ทำน้ำยากัดสนิม น้ำยาล้างห้องน้ำและแบตเตอรี่รถยนต์
ถ้าคุณกลืนโลหะลงในกระเพาะสักชิ้น มันจะถูกละลาย….กรดในกระเพาะอาหารแม้เพียงหยดเดียวก็สามารถละลายฝ่ามือเราได้ กระเพาะจะหลั่งกรดออกมาปริมาณถึง 2 ลิตร (0.5 แกลลอน) ต่อวัน ประกอบด้วยเอนไซม์ เคมีต่าง ๆ ที่เรียกว่า น้ำย่อย กรดไฮโดรคลอริก จะกำจัดไวรัสและ แบคทีเรียที่มากับอาหารเพื่อป้องกันการติดเชื้อและเกิดโรคต่าง ๆ นอกจากนั้นยังกระตุ้นการย่อยโปรตีนในอาหาร และยังเป็นตัวคุมค่า pH ของกระเพาะเพื่อกระบวนการทำงานของเอนไซม์ ในกระเพาะอาหารที่สุขภาพดีพบว่า pH ต่ำมากถึง 1.5-3.0 ซึ่งค่า pH ยิ่งต่ำหมายถึงความเข้มข้นของกรดยิ่งรุนแรงมาก
น่าแปลกมั๊ย กรดเข้มข้นขนาดนี้ ทำไมไม่กัดกระเพาะ นั่นเพราะ เซลล์ผนังกระเพาะเรามีเมือกเคลือบอยู่ แต่หากมากเกินไป ก็กัดเมือกเคลือบเกิดแผลในกระเพาะขึ้นได้ บางครั้งก็ไหลย้อนไปที่หลอดอาหารซึ่งไม่มีเมือกเคลือบเซลล์เหมือนในกระเพาะทำให้แสบร้อนทรมาน แต่ถ้าหากขาดกรดในกระเพาะอาหาร ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่อกระบวนการดูดซึมธาตุเหล็กเกิดการขาดธาตุเหล็กหรือหากกรดในกระเพาะอาหารไม่เพียงพออาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินอาหารและนำไปสู่การเกิดโรคดูดซึมอาหารผิดปกติในลำไส้เล็ก
13. การเอาศีรษะกระแทกกับกำแพงเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงจะสามารถเผาผลาญแคลอรี่ไปได้ 150 แคลอรี่ แต่การกอดกันจะเผาผลาญไปได้ 70 แคลอรี่
14. หอยทากมีฟันหลายพันซี่ และเป็นสัตว์ที่มีฟันจำนวนมากที่สุดในโลก
ซึ่งในปากของมันมีอวัยวะสำหรับบดเคี้ยวที่เรียกว่า แรดูลา (Radula) ซึ่งมีลักษณะคล้ายตะไบหรือฟันซี่เล็กๆ เรียงกันอยู่เป็นหนามแหลมจำนวนมาก ซี่งอวัยวะนี้ใช้ในการบดย่อยอาหาร เช่น เศษอาหาร ใบไม้ ดอกไม้ เป็นต้น นอกจากนี้หอยทากยังสามารถกัดแทะของเหนียวๆ แข็งๆ ได้อย่างดีด้วย อย่างเช่นมันสามารถกัดกล่อง กระดาษ รองเท้า หรือเสื้อผ้าได้
ที่มา : brightside